หญ้าเทียมใช้ทำอะไรได้บ้าง?

หญ้าเทียม

หญ้าเทียมเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเลียนแบบหญ้าจริง โดยใช้เส้นใยสังเคราะห์ หญ้าเทียมมีหลายประโยชน์ เช่น ไม่ต้องดูแลรักษามาก ไม่ต้องรดน้ำ หรือตัดหญ้า ไม่มีแมลงหรือวัชพืช และสามารถใช้ได้นาน หญ้าเทียมมีหลายประเภท และมีการใช้งานที่หลากหลาย เช่น สำหรับสนามกีฬา สนามเล่น สวน หรืองานอีเวนต์

 

หญ้าเทียมมีกี่ประเภท

หญ้าเทียมมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับวัสดุ ความสูง และการใช้งาน ตามที่ค้นหาได้จากเว็บ หญ้าเทียมสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ

  • หญ้าเทียมสำหรับใช้ทำสนามกีฬา ทำจากเส้นใยพลาสติกโพลีเอทิลีน (PE) ที่ทนต่อแดดและฝน มีความยืดหยุ่น และไม่เกิดอาการกรอบหรือแตก มีความสูงประมาณ 5-6 เซนติเมตร ใช้สำหรับสนามฟุตบอล ฟุตซอล และกีฬาอื่นๆ
  • หญ้าเทียมสำหรับงานภูมิสถาปัตยกรรม ซึ่งใช้ตกแต่งสวนและงานตกแต่งภายในต่างๆ ทำจากเส้นใยพลาสติกโพลิโพรพิลีน (PP) ที่มีความอ่อนนุ่ม แต่ไม่ทนต่อแสงแดดจัด มีความสูงตั้งแต่ 1-3.5 เซนติเมตร ใช้สำหรับปูพื้น จัดสวน สนามเด็กเล่น และตกแต่งทั่วไป

 

หญ้าเทียมสำหรับงานตกแต่งภายใน

หญ้าเทียมสำหรับงานตกแต่งภายในคือหญ้าเทียมที่ใช้เพื่อประดับหรือเพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่ภายในบ้าน หรืออาคารต่างๆ หญ้าเทียมสำหรับงานตกแต่งภายในมักจะทำจากเส้นใยพลาสติกโพลิโพรพิลีน (PP) ที่มีความอ่อนนุ่ม แต่ไม่ทนต่อแสงแดดจัด มีความสูงตั้งแต่ 1-3.5 เซนติเมตร ใช้สำหรับปูพื้น จัดสวน สนามเด็กเล่น และตกแต่งทั่วไป

หญ้าเทียมสำหรับงานตกแต่งภายในมีข้อดีคือ ไม่ต้องดูแลรักษามากเหมือนหญ้าจริง สีสันก็สวยงาม อยู่ได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ทำให้สามารถประยุกต์ใช้งานที่ทำได้มากกว่า หญ้าเทียมสามารถนำมาปูผสมกับต้นไม้จริงได้อย่างแนบเนียน และยังสามารถนำชิ้นส่วนของหญ้าเทียมมาประยุกต์ทำเป็นของแต่งบ้าน เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้บ้านได้อีกหลากหลายรูปแบบ

 

ข้อดีของการใช้หญ้าเทียม

ข้อดีของการใช้หญ้าเทียมมีหลายอย่าง ตามที่ค้นหาได้จากเว็บ บางข้อดีคือ

  • หญ้าเทียมให้ความสวยงามเหมือนจริง ดูเป็นธรรมชาติ และสะอาดตา
  • หญ้าเทียมอายุการใช้งานยาวนาน ประมาณ 6-8 ปี
  • หญ้าเทียมดูแลรักษาง่าย เพียงฉีดน้ำทำความสะอาดเมื่อสกปรก
  • หญ้าเทียมประหยัดต้นทุนการดูแลรักษา ไม่มีค่าน้ำ ค่าปุ๋ย ค่าตัดหญ้า และอื่นๆ
  • หญ้าเทียมสามารถติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกที่พักอาศัย รวมถึงติดผนังได้ด้วย
  • หญ้าเทียมปลอดภัย ไม่มีสารก่อให้เกิดภูมิแพ้ ไม่ต้องเสี่ยงกับปุ๋ยสารเคมีที่ใช้กับหญ้าจริง
  • หญ้าเทียมไม่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เลื้อยคลาน

 

วิธีการบำรุงรักษาระบบหญ้าเทียม

การบำรุงรักษาระบบหญ้าเทียมเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อให้หญ้าเทียมมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และรูปลักษณ์ที่สวยงาม การบำรุงรักษาหญ้าเทียมอาจแตกต่างกันไปตามประเภท วัสดุ และการใช้งานของหญ้าเทียม แต่โดยทั่วไป มีขั้นตอนการบำรุงรักษาหญ้าเทียมดังนี้

  • ทำความสะอาดหญ้าเทียมโดยใช้เครื่องดูดฝุ่น ไม้กวาด หรือสายยางฉีดน้ำ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่น ใบไม้ หรืออุจาระของสัตว์เลี้ยง ควรทำความสะอาดอย่างน้อยทุกสัปดาห์ หรือบ่อยขึ้นถ้ามีการใช้งานมาก
  • แปรงหญ้าเทียมเพื่อให้เส้นใยยืนตรง และกระจาย infill ให้ทั่วถึง ควรใช้แปรงพลาสติกหรือเหล็ก และแปรงในทิศทางตรงกันข้ามกับเส้นใย ควรแปรงหญ้าเทียมทุกๆ 30-35 ชั่วโมงการเล่น หรือเมื่อเห็นว่าเส้นใยหย่อนหรือเอียง
  • ซ่อมแซมหญ้าเทียมที่เสียหาย หรือหลุดร่อน โดยใช้มีด กาว และหญ้าเทียมทดแทน ควรตัดหญ้าเทียมที่เสียหายออกจากด้านหลัง และวางหญ้าเทียมทดแทนให้ตรงกับบริเวณที่เสียหาย ใช้กาวยึดให้แน่น และกดให้เกาะด้วยลูกกลิ้งหรือของหนัก
  • ใช้ยาฆ่าตะไคร่น้ำ หรือยากำจัดวัชพืช เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตบนหญ้าเทียม ควรใช้ยาที่เหมาะสมกับวัสดุของหญ้าเทียม และปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยา ควรใช้ยาฆ่าตะไคร่น้ำเป็นประจำทุกปี และใช้ยากำจัดวัชพืชตามความจำเป็น
  • หากมีการซ่อมแซมที่ซับซ้อน หรือไม่มั่นใจในการบำรุงรักษา ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมมีความเชี่ยวชาญในการจัดการการซ่อมแซมที่ซับซ้อน และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การบำรุงรักษาระบบหญ้าเทียมเป็นเรื่องที่ง่าย แต่ต้องทำเป็นประจำ การบำรุงรักษาที่ดีจะช่วยให้หญ้าเทียมมีความสวยงาม และมีประสิทธิภาพในการใช้งานได้นานขึ้น

 

ข้อจำกัดของการใช้หญ้าเทียม

การใช้หญ้าเทียมมีข้อจำกัดบางอย่างที่ควรรู้ ตามที่ค้นหาได้จากเว็บ บางข้อจำกัดคือ

  • หญ้าเทียมมีราคาแพงกว่าหญ้าจริงมาก และอาจต้องมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและซ่อมแซม
  • หญ้าเทียมอมความร้อนมากและคลายความร้อนช้ากว่าหญ้าจริง ทำให้อาจมีผลต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน หรือสัตว์เลี้ยง
  • หญ้าเทียมสามารถติดไฟได้เพราะเป็นพลาสติกและยาง ซึ่งอาจเป็นอันตรายหากมีการจุดไฟเผาหรือสารไวไฟใกล้เคียง
  • หญ้าเทียมสามารถเกิดเชื้อราได้หากมีน้ำขังเป็นระยะเวลานาน ซึ่งอาจทำให้หญ้าเสียหาย หรือเป็นสาเหตุของโรคหรือแพ้
  • หญ้าเทียมไม่ได้รับกลิ่นธรรมชาติของหญ้าและดิน ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกขาดความเป็นธรรมชาติ หรือไม่สดชื่นเท่าหญ้าจริง
  • หญ้าเทียมอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยทำลายที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัตว์ตัวเล็กๆ หรือลดการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ของหญ้าจริง
  • หญ้าเทียมอาจมีสารเคมีหรือยางที่มีผลกระทบต่อผู้เป็นโรคหอบหืด หรือผู้ที่มีปัญหาการหายใจ

การใช้หญ้าเทียมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้น ควรเลือกหญ้าเทียมให้เหมาะสมกับความต้องการ พื้นที่การติดตั้ง และงบประมาณ

 

ขนาดของหญ้าเทียม

ขนาดของหญ้าเทียมอาจแตกต่างกันไปตามประเภท วัสดุ และการใช้งานของหญ้าเทียม แต่โดยทั่วไป หญ้าเทียมมีความกว้างต่อม้วนอยู่ที่ 2 เมตร และความยาวต่อม้วนอยู่ที่ 12.5 เมตร หรือ 25 เมตร ความหนาของเส้นใยหญ้าเทียมจะมีตั้งแต่ 1 ซม. ถึง 6 ซม. ขึ้นอยู่กับความสูงของหญ้า ความถี่ของเส้นใย และ infill ที่ใช้เติมในหญ้าเทียม

หญ้าเทียมที่ใช้สำหรับภายนอก จะทำจากเส้นใยพลาสติกโพลีเอทิลีน (PE) ที่ทนต่อแดดและฝน มีความยืดหยุ่น และไม่เกิดอาการกรอบหรือแตก มีความสูงประมาณ 5-6 เซนติเมตร ใช้สำหรับสนามฟุตบอล ฟุตซอล และกีฬาอื่นๆ

หญ้าเทียมที่ใช้สำหรับงานภูมิสถาปัตยกรรม ซึ่งใช้ตกแต่งสวนและงานตกแต่งภายในต่างๆ ทำจากเส้นใยพลาสติกโพลิโพรพิลีน (PP) ที่มีความอ่อนนุ่ม แต่ไม่ทนต่อแสงแดดจัด มีความสูงตั้งแต่ 1-3.5 เซนติเมตร ใช้สำหรับปูพื้น จัดสวน สนามเด็กเล่น และตกแต่งทั่วไป