ท่อคอนกรีตใช้ทำอะไร?
ท่อคอนกรีต
ท่อคอนกรีตคือท่อที่ผลิตจากคอนกรีต ซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างที่มีความแข็งแรง ทนทาน และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในงานก่อสร้าง โดยเฉพาะในงานระบายน้ำ ท่อคอนกรีตสามารถรับแรงดันได้สูงถึง 4,000 กิโลกรัมต่อตารางเมตร และมีอายุการใช้งานยาวนาน
ท่อคอนกรีตใช้กับงานก่อสร้างประเภทไหน
ท่อคอนกรีตมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในงานก่อสร้าง โดยเฉพาะในงานระบายน้ำ ท่อคอนกรีตสามารถรับแรงดันได้สูงถึง 4,000 กิโลกรัมต่อตารางเมตร และมีอายุการใช้งานยาวนาน ท่อคอนกรีตมักใช้ในงานก่อสร้างหลายชนิด เช่น การก่อสร้างอาคาร, ถนน, เขื่อน, สะพาน, และงานก่อสร้างต่างๆ
ท่อคอนกรีตมีกี่ประเภท
ท่อคอนกรีตมีทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่ :
- ท่อคอนกรีตเสริมเหล็กแบบปากลิ้นราง (Tongue and Groove Pipe)
- ท่อคอนกรีตเสริมเหล็กแบบปากระฆัง (Bell and Spigot)
- ท่อคอนกรีตเสริมเหล็กแบบสี่เหลี่ยม (Box Culvert)
- ท่อคอนกรีตเสริมเหล็กแบบดันลอด (Jacking Pipe)
ท่อคอนกรีตมักใช้ในงานก่อสร้างหลายชนิด เช่น การก่อสร้างอาคาร, ถนน, เขื่อน, สะพาน, และงานก่อสร้างต่างๆ
ท่อคอนกรีตแต่ละประเภทต่างกันอย่างไร
ชนิดของท่อคอนกรีตแต่ละชนิดจะมีการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยท่อคอนกรีตเสริมเหล็กแบบปากลิ้นราง (Tongue and Groove Pipe) เป็นท่อที่ใช้งานมากที่สุดในการวางระบบท่อประปาและการระบายน้ำ เพราะมีความแข็งแรงสูง และสามารถรับแรงดันได้สูงถึง 4,000 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
ท่อคอนกรีตเสริมเหล็กแบบปากระฆัง (Bell and Spigot) เป็นท่อที่ใช้ในการวางระบบระบายน้ำเสียหรือน้ำที่มีสารพิษเจือปนจากโรงงานอุตสาหกรรมไปยังบ่อบำบัดหรือโรงบำบัดน้ำเสีย โดยช่วงการเชื่อมต่อของท่อแต่ละอันจะมีการใส่แผ่นยางเพื่อป้องกันการรั่วไหลของสารพิษหรือน้ำเสียออกจากระบบสู่ภายนอก
ท่อคอนกรีตเสริมเหล็กแบบสี่เหลี่ยม (Box Culvert) เป็นท่อที่ใช้ใช้ในการวางระบบระบายน้ำใต้ถนน โดยเฉพาะพื้นที่คลองหรือพื้นที่ที่ต้องการระบายน้ำมากๆ
ท่อคอนกรีตเสริมเหล็กแบบดันลอด (Jacking Pipe) เป็นท่อที่ใช้ใช้ในการวางไฟฟ้าใต้ดิน โดยจะวางไฟฟ้าไว้อยู่ภายใต้ถนน
ท่อคอนกรีตแบบไหนเหมาะสำหรับงานก่อสร้างถนน
การเลือกใช้ท่อคอนกรีตเพื่อใช้ในการก่อสร้างถนนจำเป็นต้องพิจารณาความแข็งแรงของท่อคอนกรีต เพื่อให้ท่อคอนกรีตสามารถรับแรงดันจากการเดินรถได้โดยไม่เกิดการแตกหักหรือบิดเบือน โดยท่อคอนกรีตแบบ Bell and Spigot เป็นที่ได้รับความนิยมในการใช้งานในการก่อสร้างถนน เพราะมีความแข็งแรงสูง และสามารถรับแรงดันได้สูงถึง 4,000 กิโลกรัมต่อตารางเมตร